วิถีชีวิต กิ๊งกือ

ระบบย่อยอาหาร
ท่อทางเดินอาหารของอาร์โทรปอดแบ่งออกเป็น 3 ตอนคือ
1. fore gut ด้านในบุด้วยคิวติเคิล ทางเดินอาหารส่วนนี้ประกอบด้วยปาก หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร
2. mid gut จะมีท่อจากต่อมน้ำย่อยเข้ามาเปิด จึงมีหน้าที่ย่อยอาหาร ดูดซึมอาหาร
3. hind gut มีคิวติเคิลบุอยู่ที่ผนังด้านใน เป็นทางผ่านออกของกากอาหาร มีการดูดซึมน้ำ เกลือแร่บางอย่างออกจากกากอาหารเพื่อนำกลับไปใช้อีก

ระบบขับถ่าย
- coxa gland
- antennal gland
- maxillary gland
- Malpighian tubule

ระบบประสาท
- brain
- ventral nerve cord 1 คู่ nerve cord 2 เส้นก็มักจะมาชิดกันรวมกันเป็นเส้นเดียว
- อาร์โทรปอดมีอวัยวะรับความรู้สึกหลายประเภทแตกต่างกันไปในแต่ละกลุ่ม




ระบบสืบพันธุ์
- เพศแยกเกือบทั้งหมด ยกเว้นพวกที่ยึดเกาะอยู่กับที่ เช่น เพรียงคอห่าน (Lepas sp.) มีเพศรวม 
- มี sexual dimorphism) อวัยวะที่แสดงความแตกต่างระหว่างเพศมักพบที่หนวด รยางค์อก รยางค์ท้อง
- รังไข่ และอัณฑะจะมีเป็นคู่ ตำแหน่งจะแตกต่างกันไป แต่จะอยู่ใกล้กับช่องสืบพันธุ์เสมอ
- ช่องสืบพันธุ์อาจจะเป็นช่องเดี่ยวหรือเป็นคู่ก็ได้ และมักจะอยู่ที่โคนของรยางค์ขาเดิน
- มักจะมี copulation เพศผู้จะดัดแปลงรยางค์บางอันมาทำหน้าที่ยึดเกาะตัวเมียและทำหน้าที่ส่งสเปิร์มเข้าไปผสมกับไข่
- พวกที่อยู่บนบก การปฏิสนธิจะเป็นแบบปฏิสนธิภายในตัว
- พวกที่อยู่ในน้ำ การปฏิสนธิมีได้ทั้งแบบปฏิสนธิภายในและภายนอกตัว
- ไข่มีไข่แดงมาก มักมี metamorphosis จึงมีตัวอ่อนหลายระยะ แต่ละระยะมีชื่อเรียกต่าง ๆ กันไป
- pathenogenesis มักจะพบในไรน้ำที่มีขนาดเล็ก เช่น ไรแดง (Moina macrocopa)
วงจรชีวิต
ส่วนใหญ่กิ้งกือเพศชายมีการออกแบบเป็นพิเศษขาผสมพันธุ์ในร่างกายส่วนที่เจ็ดของพวกเขาที่พวกเขาใช้ในการถ่ายโอนเชื้ออสุจิเพื่อเปิดอวัยวะเพศหญิง หญิงแล้ววางไข่ของเธอในดินภายใต้บันทึกหรือในซากใบขึ้นอยู่กับชนิด ฟักใหม่หนุ่มได้ 3 ถึง 4 คู่ของขาขึ้นอยู่กับชนิด ส่วนของร่างกายและขาเพิ่มเข้ามาด้วยเนื่อง moults ที่พวกเขาเติบโตจนขนาดผู้ใหญ่สามารถบรรลุ

การให้อาหาร
กิ้งกือเป็น สัตว์กินพืช และสามารถจับกับการให้อาหารหลักในพืชที่เน่าเปื่อยและเรื่องสัตว์
แหล่งที่มา:

http://translate.google.co.th/translate?hl=th&langpair=en%7Cth&u=http://www.ento.csiro.au/education/allies/diplopoda.html

http://images.adulsman.multiply.multiplycontent.com/attachment/0/R9FNNwoKCtcAACoHMTw1/%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B7%E0%B8%AD.doc?key=adulsman:journal:32&nmid=85228717